💥💥สาว 24 ปี ร้องเพจดังผ่านสื่อฝากถึงรัฐบาลและบุ๋ม ปนัดดา ช่วยแม่สามีที่ถูกเรียกค่าถ่าย หลังถูกหลอกค้าประเวณีมาเลเซียแต่ตนออกมาได้ (คลิป)

กรุณาแชร์ต่อ

🔴เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 16 ต.ค.67 ”นางทิพวรรณ อายุ 24 ปี (บีม) (อยู่บ้านเลขที่ 17 ชอย 3 ถนนเกาะแขก 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร) (ขอให้ใช้นามสมมุติว่าน้องบี) เข้าร้องทุกข์กับ “สิบเอกประจักกฤษ สายทิพย๋” แอดมินเพจกลุ่ม “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” ขอให้ช่วยเหลือแม่สามีของตน (นางรภัทภร ) อายุ 48 ปี ที่ถูกหลอกไปทำงานพร้อมตนเองที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเชีย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.67 และวันทึ่ 11 ต.ค.67 ที่ผ่านมาตนหลบหนีออกมาได้และกลับบ้านที่ จ.กำแพงเพชร โดยได้ติดต่อขอความช่วยเหลือจากแอดมินเพจกลุ่ม กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่ และสื่อมวลชนในท้องถิ่นให้การช่วยเหลือและนำเสนอเรื่องนี้ให้ถึงรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมขอให้ “บุ๋ม ปนัดดา” องค์กรทำดี ช่วยเหลือแม่ของตนเองกล้บมาอย่างปลอดภัยด้วย

🙏น.ส.บี (นามสมมุตื) เล่าว่า “ตนเองติดต่อผ่านเอเจนซี่ (นายหน้า) ที่เป็นคนไทยโดยเพิ่งรู้จักกัน เพื่อจะขอไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยทำงานเป็นพนักงานเอนเตอร์เทนดูแลลูกค้าทั่วไปที่เรียกกันว่า “แท็คแชทคอนโด” ซึ่งตนไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน แต่ได้ข้อมูลจากนายหน้าว่ามีรายได้ดี ระยะการทำงานสั้นเพียง 15 วัน – 3 เดือน ก็จะได้รับค่าตอบแทนหลักแสนบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายทุกอย่างทั้งหนังสือเดินทางคนไทยที่เป็นเอเจนซี่ (นายหน้า) เป็นคนออกให้ทั้งหมด ตนจึงตัดสินใจชวนแม่ของสามีไปด้วย เพราะเห็นว่ารายได้ดีและต้องการนำเงินไปใช้หนี้ที่กู้ยืมมาจากครั้งก่อนเพื่อที่จะไปทำงานประเทศเกาหลีใต้ แต่ติด ตม. และถูกส่งกลับไทยเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม 67 ซึ่งตนก็ต้องหาเงินไปใช้หนี้จึงตัดสินใจไปทำงานครั้งนี้ กับนายหน้าคนเดียวกันที่ติดต่อตนให้ไปทำงานเกาหลีใต้ โดยได้นั้งรถทัวร์ไปลงที่ บขส.หาดใหญ่ จากนั้นจะมีคนมารับข้ามไปเมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเชีย โดยได้ไปที่พักบ้านหลังหนึ่ง เมื่อไปถึงก็มีการให้ตนและแม่สามีทำประวัติและถ่ายรูปเซ็กซี่เพื่อใช้ส่งให้ลูกค้าที่จะมาใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น (ขายบริการ) ซึ่งขณะนั้นตนก็รู้ทันทีว่าถูกหลอกมาทำงานขายบริการทางเพศกับชาวต่างชาติหลายประเทศ เช่น ปากีสถาน อินเดีย ไม่ใช่งานที่ตนคิดไว้และตกลงกันไว้กับนายหน้าตอนแรก ที่ให้ไปทำงานด้านเอนเตอร์เทนดูแลลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ แต่กลับเป็นการขายบริการทางเพศโดยต้องรับแขกครั้งละ 3 – 5 คน ในครั้งเดียวกัน ผลัดกันมีเพศสัมพันธ์คนละสองรอบ และทุกๆวันที่มีแขก หลังจากทำภารกิจกับแขกแล้วก็จะต้องกำเงินสดมาให้นายหน้าที่เป็นคนดูแลทั้งหมดเมื่อครบสัญญาถึงจะให้เงินก้อนกลับบ้าน ขึ้นอยู่กับว่าใครขยันรับแขกมากน้อยเพียงใด โดยรวมแล้วจะได้เงินหลัก 100,000 บาท กลับบ้านในระยะเวลาสั้น พอตนทราบแบบนั้นจึงหาวิธีหลบหนีออกมาทันที โดยอาศัยจังหวะที่ตนถูกส่งตัวไปรับงานขายบริการทางเพศจากแขกที่ติดต่อผ่านแอพพลิเคชั่นเข้ามา โดยขอให้คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างในเมืองดังกล่าวให้พามาส่งที่สถานีรถไฟและนั่งกลับมาชายแดนไทย-มาเลเชีย ตนได้ข้ามกลับมาอย่างปลอดภัยจนถึงบ้านในวันที่ 12 ต.ค.67 ซึ่งตลอดระยะเวลาการเดินทางกลับมาจนถึงวันนี้ก็ได้ถูกข่มขู่จากนายหน้าที่เรียกว่า “แม่แท็ค” หรือ “แม่เล้า” ทางโทรศัพท์อย่างต่อเนื่อง และทางแม่แท็คได้บังคับให้แม่สามีของตนโทรมาเกลี้ยกล่อมให้ตนกลับไปและจะปล่อยตัวแม่สามี ตนเป็นห่วงแม่ของสามีที่ไม่ได้หลบหนีกลับมาด้วย ซึ่งแม่แท็ค ได้พูดคุยบีบบังคับกับตนให้หาเงิน 60,000 บาท หรือหาคนอื่นไปทำงานแทน 3 ราย แลกกับการปล่อยตัวตนเองและแม่สามีกลับออกมา แต่ต้องให้ตนไปพบด้วยตนเอง ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่านำเงินไปให้แล้วจะถูกปล่อยตัวกลับมาอย่างปลอดภัยหรือไม่ ตนได้พยามติดต่อไปยังสถานทูตไทยในประเทศมาเลเซีย เพื่อขอความช่วยเหลือแต่ถูกบ่ายเบี่ยงให้ไปแจ้งความที่มาเลเซียพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซึ่ง ณ ขณะนี้เงินที่จะเดินทางกลับไปอีกก็ไม่มี เงินถ่ายตัวแม่สามีไม่ตัองพูดถึง และไม่รู้ว่าจะได้กลับมาพร้อมแม่สามีหรือไม่หากมีเงินไปจ่ายค่าถ่าย จึงอยากจะวอนขอความช่วยเหลือผ่านสื่อถึง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา” ประธานมูลนิธิองค์กรทำดี และรัฐบาลไทยช่วยนำแม่สามีตนเองกลับมาอย่างปลอดภัย ซึ่งตนเชื่อว่าหลายคนที่ถูกหลอกไปทำงานประเภทนี้ยังไม่รู้ว่าจะถูกหลอกไปขายบรืการทางเพศและไปเจอชะตากรรมแบบใดบ้าง จึงนำเรื่องทั้งหมดร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชนและแอดมินเพจ กำแพงเพชร ร้องเรียน อะไรบอกไว้ที่นี่ เพื่อช่วยเหลือในการประสานงานครั้งนี้ด้วย ทุกวันนี้ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับเครียดตลอดเวลาเป็นห่วงแม่สามีที่ตกอยู่ในอันตราย หากตนไม่นำเงินไปถ่ายตัวแม่สามีภายในเวลาที่กำหนดนายหน้าก็จะขายแม่สามีไปทึ่อื่นทันที

⭕️ในระหว่างนั้น (นางรภัทภร) แม่สามีก็โทรไลน์เข้ามาเพื่อพูดกล่อมให้ น.ส.บี กลับไป โดยมีเนื้อหาว่า “น.ส.บี จะมาเมื่อไหร่ ซึ่งทางนี้ก็รอพูดคุยอยู่ ซึ่งก็รับปากว่าจะไม่ทำอะไร จะได้มารับหนังสือเดินทางและสิ่งของเดินทางกลับพร้อมกัน ซึ่งก็อยากให้เอาของมาคืน (ซึ่งคือโทรศัดท์มือถือที่ใข้หาแขกเพื่อขายบริการ) ซึ่ง น.ส.บี ก็ถามแม่สามีว่าทางแม่เล้าให้หาเงินไหม ซึ่งข้อได้รับคำตอบว่าต้องหาเงินคนละ 3 หมื่นบาท ซึ่งก็ได้ติดต่อนายแป๊ะ (ลูกชาย) ให้ช่วยหาแต่ยังไม่ครบตามจำนวน อยากให้เข้ามาพูดคุยกัน (ซึ่งขณะที่คุยนั้น แม่สามีไม่รู้ว่า น.ส.บี อยู่กับนายแปะตอนนี้ โดยทั้งแม่และแม่เล้า ยังเชื่อว่า น.ส.บี อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย) สัมภาษณ์ น.ส.บี (นามสมมุติ) เล่าว่า “ ตนเชื่อว่างานที่ติดต่อให้ไปทำนั้นเป็นงานเอนเตอร์เทนลูกค้าทั่วไป ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการหลอกให้ตนไปขายบริการทางเพศกับชาวต่างชาติ เมื่อไปถึงก็สั่งให้ทำประวัติและถ่ายรูปเซ็กซี่โป๊เปลือยเพื่อนำไปทำโปรไฟล์ในแอพพลิเคชั่นต่างๆที่หาคู่ ซึ่งหากมีแขกชาวต่างชาติคนไหนสนใจใช้บริการก็จะเรียกรถแก๊ปให้ไปส่งที่คอนโดลูกค้า ซึ่งวันนั้นตนมีลูกค้าเรียกใช้บริการตนจึงอาศัยจังหวะหลบหนีออกมาได้ ซึ่งแม่ของสามีตนยังไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ถูกคุมเข้มเรื่องการสื่อสารตลอดเวลา ซึ่งต้อง หาเงินจำนวน 3-6 หมื่นบาท เพื่อที่จะนำไปถ่ายตัวออกมา ตนเองได้มีโอกาสคุยกับแม่ว่าหากจ่ายเงินจำนวนนี้ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะถูกปล่อยตัวออกมาหรือไม่ ซึ่งต้องการบีบตนให้กลับไปที่นั้น ซึ่งหากไม่มีเงินไปจ่ายค่าตัวแม่สามีก็จะถูกขายไปที่อื่น ซึ่งเหมือนจะรู้ว่าตนทำอะไรที่ไหน ซึ่งไม่รู้ว่าต้นนี้กลับมาแล้ว โดยตนอยากจะขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนและรัฐบาลไทยทุกภาคส่วน และพี่บุ๋ม ปนัดดา ให้ช่วยเหลือซึ่งตอนนี้ตนก็ไม่รู้ว่าที่คุยกับเราจริงๆใช่แม่สามีเราคุยหรือเปล่า ตนไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้เพราะก่อนหน้านี้ตนไปประเทศเกาหลีใต้แต่ถูก ตม,ส่งกลับ ซึ่งก็ต้องกู้เงินเป็นหนี้้เป็นสินเอารถไปจำนำเถื่อนเพื่อเดินทางไปแต่ไม่ผ่าน ซึ่งก็มีทางเลือกใหม่ให้ตนไปที่มาเลเซียเพื่อจะหาเงินมาใช้หนี้แต่กลับเจอเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งก็ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดของงานที่ชัดเจน เมื่อมาถึงแล้วก็รู้ว่าถูกหลอกและหาวิธีหนีกลับมา ซึ่งหากตนหาเงินใช้หนี้ค่าแท็กภายในเวลา ส่วนที่เหลือก็จะได้เงินกลับมาเป็นเงินหลักแสนบาท ซึ่งประมาณ 6 หมื่นบาทไทย ซึ่งที่ทนไม่ได้คือให้แขก 3 คน มีเพศสัมพันธ์ุกับตนเองคนละ 2 รอบ ตนรู้สึกกลัวมากและคิดจะหนีอย่างเดียวไม่งั้นคงตัองตายทั้งเป็น

⭐️สัมภาษณ์ “สิบเอกประจักรกฤษ สายทิพย์” แอดมินเพจกลุ่ม “กำแพงเพชร ร้องเรียนอะไร บอกไว้ที่นี่” เล่าว่า “ ตนได้รับเรื่องร้องทุกข์จาก น.ส.บี เมื่อ 2 วันก่อน ว่าถูกหลอกไปค้าประเวณี ซึ่งไม่ตรงกับงานที่ตกลงกันไว้ตอนแรก สุดท้ายก็หลบหนีออกมาแต่แม่สามียังไม่สามารถออกมาได้ ซึ่งก็นำเรื่องดังกล่าวขอความช่วยเหลือมาที่ตนหรือก่อนหน้านี้ได้มีการประสานขอความช่วยเหลือไปที่สถานทูตไทยในประเทศมาเลเซียแต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเท่าที่ควร จึงขอวอนผ่านสื่อมวลชนถึงมูลนิธิต่างๆและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าช่วยเหลือแม่สามีของตนให้กลับมาอย่างปลอดภัย


กรุณาแชร์ต่อ

You may have missed