🔴ชาวบ้านรวมตัวแจ้งความแน่นโรงพักคลองขลุง !! หลังกองทุนฌาปนกิจที่ส่งมากว่า 30 ปี ไม่จ่ายค่าทำศพคนในครอบครัวเสียหายรวม 40 ศพ พาเดือดร้อนหนัก (คลิป)https://youtu.be/a9s_BJJmbRY?si=dp5blzo-P4XyUPlu

♦️เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 ม.ค.67 ชาวบ้านกว่า 50 คน เดินทางนำหลักฐานมาแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หลังจากได้รับความเดือดร้อนจากกองทุนเงิน ฌาปนกิจศพของ “ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขอำเภอคลองขลุง” (อสม.) ที่มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 40 ศพ แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าทำศพแม้แต่บาทเดียว โดยจะได้รับเงิน 12,000 บาท ต่อศพ รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 480,000 บาท โดยกองทุนดังกล่าวถูกตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 ( ระยะเวลา 31 ปี) มีสมาชิกกว่า 4,000 คน ซึ่งทุกปีจะต้องมีการเก็บเงินสมาชิกเข้ากองทุนคนละ 340 บาท ต่อปี โดยครั้งล่าสุดมีการเก็บเงินสมาชิกไปเมื่อต้นปี พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา และช่วงเดือน ต.ค.2566 กรรมการกองทุนได้มีมติยกเลิกเก็บเงินสมาชิกปีต่อไป โดยให้เหตุผลกับชาวบ้านที่เป็นสมาชิกกองทุนว่าขาดทุนจากการเก็บเงินสมาชิดไม่ครบ และมีผู้เสียชีวิตปี 2565 กว่า 70 ราย จึงต้องมีการยุติกองทุนดังกล่าวลง ทำให้สมาชิกทั้งหมดเคว้งและได้รับผลกระทบ กับจำนวนเงินที่ส่งมานานนับ 10 ปี และมีครอบครัวผู้ที่เสียชีวิต จำนวน 40 ศพ ที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาค่าทำศพ หลังจากที่พ่อแม่ญาติพี่น้องคนในครอบครัวเสียชีวิตไปแล้ว จึงรวมตัวพากันมาร้องทุกข์กับตำรวจวันนี้เพื่อขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้เข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอคลองขลุง แต่ก็ยังไม่คืบหน้าเนื่องจากกรรมการของกองทุนฌาปนกิจดังกล่าวไม่เดินทางมาชี้แจงกับชาวบ้านที่เป็นสมาชิก ทำให้ต้องพากันไปแจ้งความที่ สภ. คลองขลุง เพื่อให้เจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดี โดยมีข้อมูลว่ามีการนำเงินค่าฌาปนกิจศพของกองทุนบางส่วนไปปล่อยกู้กว่า 1400,000 บาท ซึ่งในแต่ละปีจะมีการเก็บเงินสมาชิกรวมแล้วกว่า 1,400,000 บาท แม้หักจากปี 2565 ที่คณะกรรมการอ้างว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 70 ราย ทำให้กองทุนขาดทุนไม่สามารถจ่ายเงินให้กับศพของผู้เสียชีวิตในปัจจุบัน 40 ศพ ได้นั้น แกนนำและชาวบ้านที่มาร้องทุกข์ต่างเห็นว่าไม่เป็นความจริงเพราะบวกลบแล้วก็ยังเหลือเงินที่จะจ่ายเยียวยาให้กับค่าทำศพที่เดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ได้ โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการกองทุนไม่สามารถชี้แจงได้ว่านำเงินทั้งหมดไปทำอะไร ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขอำเภอคลองขลุง ได้ออกมาชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขอำเภอคลองขลุงแต่อย่างใด เป็นการนำชื่อของหน่วยงานไปแอบอ้างในการจัดชมรมดังกล่าวขึ้นมา โดยตลอดระยะเวลาที่มีปัญหาได้พยายามเรียกกรรมการผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงแต่กลับไม่มี ใครเข้ามาชี้แจงเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจน พร้อมทั้งได้แจ้งให้ทางชมรมหยุดใช้ชื่อ “ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขอำเภอคลองขลุง” (อสม.) โดยทันที เพราะสร้างความเข้าใจผิดและเสียหายกับองค์กรสาธารณสุขอำเภอคลองขลุง

♦️สัมภาษณ์ “นายประจักษ์ แก้วกิจจา” สาธารณสุขอำเภอคลองขลุง กล่าวว่า “ ชมรมดังกล่าวเป็นการเก็บเงินเพื่อเป็นสวัสดิการสงเคราะห์ของกลุ่มที่ทำกันมานานกว่า 20 ปี โดยใข้ชื่อว่า “ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขอำเภอคลองขลุง” (อสม.) ซึ่งมันเกี่ยวเนื่องกับองค์กร อสม. ของสาธารณสุขอำเภอคลองขลุง ซึ่งสมาชิกในกลุ่มก็ไม่ใช้ อสม.ทั้งหมด มีชาวบ้านและประชาชนเป็นส่วนใหญ่ ภายหลังทราบมาว่าขาดสภาพคล่องทางการเงินจนมีปัญหา โดยตนได้รับเรื่องจากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอคลองขลุงให้จัดการเรื่องการทำให้เกิดการเสียชื่อเสียงขององค์กรสาธารณสุข ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วเป็นการใช้ชื่อในการแอบอ้างเก็บเงิน โดยได้แจ้งให้กลุ่มแบะคณะกรรมการได้เปลี่ยนชื่อใหม่ขอไม่ให้ใช้เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อองค์กรใหญ่ โดยยืนยันว่าไม่ มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการเก็บเงินดังกล่าว

♦️สัมภาษณ์ “นางกินรี เนินพลับ” อายุ 49 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 65/3 ม.3 ต.หัวถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร (ผู้เสียหายที่ไม่ได้รับเงินค่าทำศพของญาติตนเอง และเป็นผู้เก็บส่งกองทุน) เล่าว่า “ ตนในฐานะผู้ที่ได้รับผลกระทบและแกนนำในการรวบรวมหลักฐานช่วยเหลือสมาชิกทั้งหมด 40 ศพ โดยที่ผ่านมาทางคณะกรรมการชมรมฌาปนกิจดังกล่าว ได้บอกว่ากองทุนมีการขาดทุน และขอยุติการดำเนินการ แต่ทางคณะกรรมการไม่เคยมีการแจ้งรายละเอียดใดๆให้ตนและสมาชิกทราบเลย ซึ่งตนได้รวบรวมหลักฐานเอกสารก็พบว่าเงินยังเหลือไม่มีการขาดทุนตามที่กรรมการอ้างไว้ ซึ่งพบว่ามีการนำเงินไปปล่อยกู้นอกระบบด้วย แต่จากหลักฐานที่มีก็ยังมีกำไรอยู่ สามารถเยียวยาช่วยเหลือศพทั้งหมดได้ โดยก่อนที่จะมีการแจ้งความในวันนี้ได้มีการร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอคลองขลุงไปถึง 3 รอบแต่ก็ยังไม่มาชี้แจง ซึ่งก็ทำให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมดเดือดร้อน ซึ่งอยากให้ทางคณะกรรมการออกมาพูดคุยกันหาทางออกร่วมกันดีกว่าที่จะหายเงียบไปแบบนี้

♦️สัมภาษณ์ “นางนพิศ รัตนสูตร” อายุ 56 ปี (อยู่ 17/1 ม.6 ต.หัวถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร) หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า “ ตนในฐานะผู้เสียหายที่ต้องได้รับเงินค่าทำศพของคนในครอบครัวที่เดือดร้อน โดยคณะกรรมการกองทุนอ้างว่าขาดทุนไม่ได้กำไรขอยกเลิกการจ่ายเงิน ซึ่งผู้ที่เดือดร้อนต้องมีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ส่งกันมานานหลาย 10 ปี ก็หวังว่าจะใช้เงินส่วนนี้ในการแบ่งเบาค่าทำศพของคนในครอบครัว ซึ่ง คนในครอบครัวของตนได้เสียชีวิตไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้วก็ยังได้รับเงินเยียวยา ซึ่งก็อยากให้ทางคณะกรรมการออกมาชี้แจงว่าอะไรเป็นอะไรไม่ใช่หายไปแบบนี้ ถามให้คนที่จนไม่มีเงินทำศพเดือดร้อนและคนที่เก็บเงินส่งกองทุนที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องถูกด่าถูกว่าก็เดือดร้อนว่าเอาเงินมากินเอง🎈